ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
12 มค 2566
สำหรับโปรแกรมการปรับรูปหน้าจะทำกัน 2 โปรแกรมหลักๆคือ สลายไขมันส่วนหน้าคือแก้ม เหนียง จะต้องใช้ตัวยาเรียกว่ายาสลายไขมันนิยมเรียกกันคุ้นหูว่า แฟต และอีกโปรแกรมคือ โบลดกราม หรือลดกล้ามเนื้อกราม จะต้องใช้ตัวยาท็อกซิน หรือที่รู้จักกว่าคือ โบท็อกซ์ตัวนี้จะช่วยปรับรูปหน้าส่วนหลังคือกราม ดังนั้นการปรับรูปหน้าพื้นฐานเลยจะนิยมทำสองโปรแกรมหลักๆนี้เลย ถ้าทำพร้อมกันได้รูปหน้าของเราจะเข้ารูปทั้งส่วนหน้า และส่วนหลังพอดีกันเลย
ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
25 ตค 2566
คือโปรแกรมสลายไขที่มันแก้ม หรือเหนียง เป็นการปรับรูปหน้าส่วนด้านหน้า เพื่อทำให้บริเวณที่ต้องการสลายไขมันให้ยุบตัวลงสำหรับการสลายของไขมันจะขับออกทางปัสสาวะ ดังนั้นหลังทำไปแล้วแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ มากกว่า 2 ลิตรต่อวันได้เลย และงดทานของมันของทอด แป้ง เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมเร็ว หลังทำไป 5-7 วันก็เริ่มเห็นผล และจะเห็นผลเต็มที่เลย 2 อาทิตย์ หรือ 1 เดือนขึ้นอยู่ที่การตอบสนองตัวยาของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ
การสลายไขมันส่วนเกิดที่ต้องการสลายในแต่ละครั้งจะสลายไขมันออกไปประมาณ 10-15% ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การตอบสนองตัวยาของแต่ละคนด้วยรวมถึงปริมาณของตัวยาที่ใช้ และการฉีดสลายซ้ำครั้งที่ 2 เป็นเรื่องปกติของการฉีดสลายไขมัน แต่สำหรับบางคนทำครั้งเดียวและตอบสนองตัวยาได้ดีมาก ก็ไม่จำเป็นต้องฉีดซ้ำในครั้งที่สอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจในรูปหน้าของแต่ละคนด้วย
เป็นโปรแกรมหลักๆของการปรับให้รูปหน้าดูเรียว และเข้ารูป ลดกรามด้วยโบจะเริ่มเห็นผลหลังทำ 2 อาทิตย์หลังฉีดไป และจะเห็นผลเต็มที่ 1 เดือน ส่วนโปรแกรมสลายไขมันจะเห็นผลเต็มที่ 14 วันหลังทำ รูปใช้เป็นตัวอย่างแสดงผลลัพธ์จากการเข้าการรักษาโปรแกรมโบท็อกซ์ลดก้อนกราม หลังจากทำไปครบ 1 เดือน
ปัจจุบันการปรับรูปหน้าด้วยโบได้รับความนิยมมากๆในปัจจุบัน เนื่องจากไม่ต้องมีการพักฟื้นใดๆ เห็นผลเร็วด้วย ทำให้ใครหลายๆคนเลือกวิธีนี้เพราะด้วยราคาที่ไม่แรง ไม่แพง ไม่ต้องพักฟื้น หรือผ่าตัดเลย ยิ่งทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ การลดกรามคุณหมอจะฉีดท็อกซินเข้าไปยังบริเวณกล้ามเนื้อกราม เพื่อไปยับยั้งการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อน และนิิ่มลงภายใน 2 อาทิตย์ที่เริ่มเห็นผล และเห็นผลลัพธ์เต็มที่ 1 เดือน ประมาณอยู่ได้ 4-6 เดือน
ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
9 มิย 2566
เป็นบริเวณที่ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดดขึ้นได้ง่ายมาก เพราะเป็นส่วนที่ใช้ในการแสดงสีหน้าเป็นประจำ ไม่ว่าจะด้วยเหตุการณ์ใดๆที่ใช้การแสดงสีหน้า อาทิ โกรธ งอล ดีใจ หัวเราะ พอทำเป็นประจำก็จะทำให้เกิดร่องลึกขึ้นได้ ซึ่งเป็นอาการปกติของคนทั่วไป และอีกสาเหตุนึงคือการโดนแสงแดดทำร้าย (UV) ยิ่งคนที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดป้องกันจะทำให้เกิดริ้วรอยที่เป็นร่องลึกได้สูงกว่าคนที่ทาครีมกันแดด
ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
19 มิย 2566
เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่เกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ เพราะบริเวณนี้จะเห็นได้ชัดเหมืนกับบริเวณหน้าผาก การแสดงสีหน้า และการแสดงอารมณ์ต่างๆกล้ามเนื้อบริเวณนี้ก็ทำงานไปด้วย เพราะทุกการแสดงสีหน้ากล้ามเนื้อก็จะทำงานไปด้วย และเป็นบริเวณตื้นๆที่เวลายิ้มจะเห็นริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตาชัดมากๆ
ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
9 มิย 2566
บริเวณนี้ก็เป็นจุดที่เป็นริ้วรอยได้ง่าย และเป็นร่องลึกได้ง่ายเช่นกัน บางท่านไม่เคยดูแลตัวเองเลย และใช้การแสดงสีหน้าคอนข้างเยอะจนทำให้ริ้วรอยตื้นๆกลายเป็นริ้วรอยร่องลึกถาวร (จะเป็นริ้วรอยที่ร่องลึกกว่าคนทั่วไปที่ดูแลตัวเอง หรือฉีดโบอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
เป็นส่วนที่คนไทยเราไม่ค่อยนิยมสักเท่าไหร่ บริเวณคอเป็นอีกหนี่งบริเวณที่สามารถเกิดปัญหาการเหี่ยวย่นได้ง่ายมากๆอย่างน้อยควรดูแลบริเวณนี้ไปด้วยร่องแก้ม เป็นบริเวณที่เป็นร่องลึกที่ลึกมาก เห็นได้ชัดเจนมากๆ แต่บริเวณนี้ไม่แนะนำให้ใช้โบในการรักษา เนื่องจากเสี่ยงต่อการแสดงสีหน้าไม่ได้ ยิ้มไม่ออก และเสี่ยงต่อปากเบี้ยวได้ (แนะนำใช้โปรแกรมร้อยไหม หรือโปรแกรมฟิลเลอร์ หรือไฮฟู่แทน)
1.ทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ รวมถึงอาหารที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี ซึ่งทั้งหมดสามารถทานผักและผลไม้ได้ รวมถึงอาหารเสริม
2. การนอนหลับ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยได้ เพราะการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอทำให้เซล์ลต่างๆในร่างกายเราพักผ่อนไม่เต็มที่
3.ทานอาหารเสริม เลือกทานอาหารเสริมที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเยอะๆ เพราะทุกวันนี้หลายท่านทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือต่อให้ครบ ก็อาจจะได้สารอาหารไม่ครบ ดังนั้นอาหารเสริมเป็นอีกทางเลือกในการช่วยได้
4.ออกกำลังกาย การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยลดความเครียดได้แล้ว ยังช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายอีกด้วย พอร่างกายผ่อนคลาย การแสดงอารมณ์ต่างๆที่จะออกทางสีหน้าก็จะบรรเทาลง
นอกจากการใช้โบท็อกซ์ในการลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟกรอบหน้า รักษาไมเกรน รักษาอาการปวดเมื่อยที่คอ บ่า ไหล่ แล้วยังนำตัวยามาฉีดลดขนาดของน่องและกล้ามแขนด้วยนะ หลักการทำงานจะเหมือนกับการฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้เล็กลงเลย แต่จะแตกต่างกันก็คือ การฉีดลดขนาดกล้ามน่องเป็นบริเวณที่ใหญ่และกว้างกว่าใบหน้า จึงจำเป็นต้องใช้ปริมาณตัวยาที่มากกว่าใบหน้า 1 เท่าตัว เช่น ส่วนใหญ่ใบหน้าใช้ 100-150 ยูนิตก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับการลดขนาดน่องให้เล็กลงจะต้องใช้ปริมาณ 200-400 ยูนิต ขึ้นอยุ่ที่ปัญหาและขนาดของกล้ามเนื้อน่องของแต่ละบุคคลด้วย การเห็นผลหลังทำไป 2 อาทิตย์กล้ามเนื้อที่แข็งใหญ่ก็จะเริ่มนิ่มลง และจะเห็นผลเต็มที่่ 1 เดือน อยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน
โปรโมชั่นลดน่อง 200 ยูนิต 12,000 บาท กระจายตัวยาได้ทั้งสองข้างแบบจุกๆไปเลย
ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
19 มีค 2564
ทุกวันนี้อากาสบ้านเราค่อนข้างร้อนถึงร้อนมาก ทำให้เหงื่อท่วมตัวพอสมควร บางคนขนาดใส่สเปรย์กำจัดกลิ่นเต่าแล้วยังมีกลิ่นเล็ดลอดออกมาอยู่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และเกรงใจคนรอบข้าง วงการแพทย์จึงมีการนำตัวโบท็อกซ์เข้ามาทำการทดลองจนได้การทำงานที่ชัดเจนว่าโบท็อกซ์สามารถลดกลิ่นเต่าได้ดีถึง 80 เปอร์เซ็นเลย
กรณีการฉีดโบริ้วรอย ตีนกา หน้าผาก หว่างคิ้ว รวมถึงการลิฟกรอบหน้า และลำคอ หลังทำไป 3-5 วันก็จะเริ่มเห็นผล และจะเห็นผลเต็มที่เลย 14 วันหลังฉีดไป และในกรณีฉีดโบลดกราม ลดกล้ามแขน ลดน่อง ลดอาการปวดเมื่อย คอ บ่า ไหล่ จะเริ่มเห็นผลหลังทำ 14 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ 1 เดือน เนื่องจากบริเวรเหล่านั้นเป็นมัดกล้ามเนื้อที่แข็งและใหญ่กว่าริ้วรอย
ปัจจุบันนี้มีโบหลายยี่ห้อที่เป็นทางเลือกให้ได้เลือกใช้กันแต่ละยี่ห้อก็จะมีขนาดโมเลกุล ความบริสุทธิ์ และปริมาณสาระสำคัญที่แตกต่างกันออกไปทำให้คุณสมบัติของโบแต่ละยี่ห้อและราคาของโบจึงมียี่ห้อโบออกมาให้เลือกมากมายทั้งแพทย์และคนไข้เอง