Botulinum Toxin

โบท็อกซ์ หรือ Botulinum Toxin คืออะไร? 

     คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) เป็นสารสกัดจากแบททีเรียที่มีประโยชน์ สกัดความบริสุทธิ์ของโปรตีนจากธรรมชาติ จะออกฤทธิ์ทำให้มัดกล้ามเนื้อที่หดตัวคลายตัวลงโดยตัวยาจะทำงานร่วมกับปลายประสาทที่เชื่อมตัวกับกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดตัวยาเข้าไปเกิดการคลายตัวจึงทำให้ริ้วรอยต่างๆที่ฉีดตัวยาเข้าไปลดเลือนลง เช่น ริ้วรอยตีนกา รอยย่นหน้าผาก รอยย่นหว่างคิ้ว รวมถึงกล้ามเนื้อกราม เนื่องจากมันกล้ามเนื้อส่วนนี้เมื่อฉีดตัวยาเข้าไป กล้ามเนื้อจะไม่เกร็งตัว ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว หรือหดตัวลง ปัจจุบันนี้นิยมทำมาฉีดปรับรูปหน้าคือการลดกรามนั้นเอง 

คุณสมบัติของโบท็อกซ์

- ลดขนาดกรามให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง
- รอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว
- ลดขนาดน่องให้ขาเรียวยาวสวย
- ลดขนาดปีกจมูกเพื่อให้ปีกจมูกเล็กลงเห็นสันแกนจมูกชัดเจนขึ้น
- บริเวณคอ มือ ที่เหี่ยวย่น ตัวยาช่วยให้ผิวหนังดูอ่อนเยาว์ลง
- การลิฟท์กรอบหน้าเพื่อช่วยยกกระชับใบหน้า ไม่ให้หย่อนคล้อย
- ฉีดใต้รักแร้ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง และระงับกลิ่นเต่าได้ดี
- รักษาโรคไมเกรน เพื่อระงับอาการปวดให้น้อยลง
- รักษาอาการปวดเมื่อย คอ บ่า ไหล่ 
 

ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
12 มค 2566

โปรแกรมปรับรูปหน้าเรียว

     สำหรับโปรแกรมการปรับรูปหน้าจะทำกัน 2 โปรแกรมหลักๆคือ สลายไขมันส่วนหน้าคือแก้ม เหนียง จะต้องใช้ตัวยาเรียกว่ายาสลายไขมันนิยมเรียกกันคุ้นหูว่า แฟต และอีกโปรแกรมคือ โบลดกราม หรือลดกล้ามเนื้อกราม จะต้องใช้ตัวยาท็อกซิน หรือที่รู้จักกว่าคือ โบท็อกซ์ตัวนี้จะช่วยปรับรูปหน้าส่วนหลังคือกราม ดังนั้นการปรับรูปหน้าพื้นฐานเลยจะนิยมทำสองโปรแกรมหลักๆนี้เลย ถ้าทำพร้อมกันได้รูปหน้าของเราจะเข้ารูปทั้งส่วนหน้า และส่วนหลังพอดีกันเลย

 

ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย 
25 ตค 2566

โปรแกรมลดไขมันแก้ม เหนียง

     คือโปรแกรมสลายไขที่มันแก้ม หรือเหนียง เป็นการปรับรูปหน้าส่วนด้านหน้า เพื่อทำให้บริเวณที่ต้องการสลายไขมันให้ยุบตัวลงสำหรับการสลายของไขมันจะขับออกทางปัสสาวะ ดังนั้นหลังทำไปแล้วแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ มากกว่า 2 ลิตรต่อวันได้เลย และงดทานของมันของทอด แป้ง เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมเร็ว หลังทำไป 5-7 วันก็เริ่มเห็นผล และจะเห็นผลเต็มที่เลย 2 อาทิตย์ หรือ 1 เดือนขึ้นอยู่ที่การตอบสนองตัวยาของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ
 

การสลายไขมันต้องทำกี่ครั้ง?

     การสลายไขมันส่วนเกิดที่ต้องการสลายในแต่ละครั้งจะสลายไขมันออกไปประมาณ 10-15% ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การตอบสนองตัวยาของแต่ละคนด้วยรวมถึงปริมาณของตัวยาที่ใช้ และการฉีดสลายซ้ำครั้งที่ 2 เป็นเรื่องปกติของการฉีดสลายไขมัน แต่สำหรับบางคนทำครั้งเดียวและตอบสนองตัวยาได้ดีมาก ก็ไม่จำเป็นต้องฉีดซ้ำในครั้งที่สอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจในรูปหน้าของแต่ละคนด้วย

ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย 
25 กค 2566

ลดกราม 

     คือการใช้โบที่บริสุทธิ์ฉีดที่บริเวณกรามจะทำให้กล้าทเนื้อกล้ามฟ่อตัวลง ไม่อันตราย ฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ หลังทำโบลดกรามไปจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของโบหลังฉีด หลีกเลี่ยงความร้อนสัมผัสใบหน้าทุกชนิด งดทานของเหนียว แข็ง เพื่อไม่ให้กรามเกิดขึ้นได้อีก

 

ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
25 ตค 2565

การปรับรูปหน้าด้วยสองโปรแกรมนี้

     เป็นโปรแกรมหลักๆของการปรับให้รูปหน้าดูเรียว และเข้ารูป ลดกรามด้วยโบจะเริ่มเห็นผลหลังทำ 2 อาทิตย์หลังฉีดไป และจะเห็นผลเต็มที่ 1 เดือน ส่วนโปรแกรมสลายไขมันจะเห็นผลเต็มที่ 14 วันหลังทำ รูปใช้เป็นตัวอย่างแสดงผลลัพธ์จากการเข้าการรักษาโปรแกรมโบท็อกซ์ลดก้อนกราม หลังจากทำไปครบ 1 เดือน

โปรแกรมการปรับรูปหน้าเรียว

     ปัจจุบันการปรับรูปหน้าด้วยโบได้รับความนิยมมากๆในปัจจุบัน เนื่องจากไม่ต้องมีการพักฟื้นใดๆ เห็นผลเร็วด้วย ทำให้ใครหลายๆคนเลือกวิธีนี้เพราะด้วยราคาที่ไม่แรง ไม่แพง ไม่ต้องพักฟื้น หรือผ่าตัดเลย ยิ่งทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ การลดกรามคุณหมอจะฉีดท็อกซินเข้าไปยังบริเวณกล้ามเนื้อกราม เพื่อไปยับยั้งการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อน และนิิ่มลงภายใน 2 อาทิตย์ที่เริ่มเห็นผล และเห็นผลลัพธ์เต็มที่ 1 เดือน ประมาณอยู่ได้ 4-6 เดือน

ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
9 มิย 2565

สาเหตุของกรามใหญ่

      การที่บางคนมีรูปหน้าที่ใหญ่นั้นมีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเกิดจากกรรมพันธุ์เพราะด้วยโครงสร้างกระดูกที่ใหญ่ และการใช้กล้ามเนื้อกรามด้วย เช่น การเคี้ยวของแข็งๆ และเหนียวๆบ่อย รวมไปถึงการคบเคี้ยวหมากฝรั่ง การเคี้ยวของแข็งและเหนียวบ่อยๆทำให้มัดกล้ามเนื้อบริเวณกรามแข็งแรง จนทำให้เห็นก้อนกรามที่ปูดออกมา ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆคือการออกกำลังกายยกเวท ทำให้แขนของเรามีกล้าม ดังนั้นการเคี้ยวของแข็ง และการคบเคี้ยวบ่อยๆทำให้กล้ามเนื้อกรามแข็งแรงขึ้น

ตำแหน่งที่เกิดริ้วรอยบนใบหน้า

ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
9 มิย 2566

หน้าผาก

     เป็นบริเวณที่ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดดขึ้นได้ง่ายมาก เพราะเป็นส่วนที่ใช้ในการแสดงสีหน้าเป็นประจำ ไม่ว่าจะด้วยเหตุการณ์ใดๆที่ใช้การแสดงสีหน้า อาทิ โกรธ งอล ดีใจ หัวเราะ พอทำเป็นประจำก็จะทำให้เกิดร่องลึกขึ้นได้ ซึ่งเป็นอาการปกติของคนทั่วไป และอีกสาเหตุนึงคือการโดนแสงแดดทำร้าย (UV) ยิ่งคนที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดป้องกันจะทำให้เกิดริ้วรอยที่เป็นร่องลึกได้สูงกว่าคนที่ทาครีมกันแดด

ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
19 มิย 2566

หางตาหรือตีนกา

     เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่เกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ เพราะบริเวณนี้จะเห็นได้ชัดเหมืนกับบริเวณหน้าผาก การแสดงสีหน้า และการแสดงอารมณ์ต่างๆกล้ามเนื้อบริเวณนี้ก็ทำงานไปด้วย เพราะทุกการแสดงสีหน้ากล้ามเนื้อก็จะทำงานไปด้วย และเป็นบริเวณตื้นๆที่เวลายิ้มจะเห็นริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตาชัดมากๆ

ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
9 มิย 2566

หว่างคิ้ว (ขมวดคิ้ว)

     บริเวณนี้ก็เป็นจุดที่เป็นริ้วรอยได้ง่าย และเป็นร่องลึกได้ง่ายเช่นกัน บางท่านไม่เคยดูแลตัวเองเลย และใช้การแสดงสีหน้าคอนข้างเยอะจนทำให้ริ้วรอยตื้นๆกลายเป็นริ้วรอยร่องลึกถาวร (จะเป็นริ้วรอยที่ร่องลึกกว่าคนทั่วไปที่ดูแลตัวเอง หรือฉีดโบอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณคอ

     เป็นส่วนที่คนไทยเราไม่ค่อยนิยมสักเท่าไหร่ บริเวณคอเป็นอีกหนี่งบริเวณที่สามารถเกิดปัญหาการเหี่ยวย่นได้ง่ายมากๆอย่างน้อยควรดูแลบริเวณนี้ไปด้วยร่องแก้ม เป็นบริเวณที่เป็นร่องลึกที่ลึกมาก เห็นได้ชัดเจนมากๆ แต่บริเวณนี้ไม่แนะนำให้ใช้โบในการรักษา เนื่องจากเสี่ยงต่อการแสดงสีหน้าไม่ได้ ยิ้มไม่ออก และเสี่ยงต่อปากเบี้ยวได้ (แนะนำใช้โปรแกรมร้อยไหม หรือโปรแกรมฟิลเลอร์ หรือไฮฟู่แทน)

การป้องกันปัญหาริ้วรอย

1.ทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ รวมถึงอาหารที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี ซึ่งทั้งหมดสามารถทานผักและผลไม้ได้ รวมถึงอาหารเสริม
2. การนอนหลับ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยได้ เพราะการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอทำให้เซล์ลต่างๆในร่างกายเราพักผ่อนไม่เต็มที่
3.ทานอาหารเสริม เลือกทานอาหารเสริมที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเยอะๆ เพราะทุกวันนี้หลายท่านทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือต่อให้ครบ ก็อาจจะได้สารอาหารไม่ครบ ดังนั้นอาหารเสริมเป็นอีกทางเลือกในการช่วยได้
4.ออกกำลังกาย การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยลดความเครียดได้แล้ว ยังช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายอีกด้วย พอร่างกายผ่อนคลาย การแสดงอารมณ์ต่างๆที่จะออกทางสีหน้าก็จะบรรเทาลง

ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
25 เมย 2566

การทำโปรแกรมโบท็อกซ์ลดน่องเรียวเล็ก 

     นอกจากการใช้โบท็อกซ์ในการลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟกรอบหน้า รักษาไมเกรน รักษาอาการปวดเมื่อยที่คอ บ่า ไหล่ แล้วยังนำตัวยามาฉีดลดขนาดของน่องและกล้ามแขนด้วยนะ หลักการทำงานจะเหมือนกับการฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้เล็กลงเลย แต่จะแตกต่างกันก็คือ การฉีดลดขนาดกล้ามน่องเป็นบริเวณที่ใหญ่และกว้างกว่าใบหน้า จึงจำเป็นต้องใช้ปริมาณตัวยาที่มากกว่าใบหน้า 1 เท่าตัว เช่น ส่วนใหญ่ใบหน้าใช้ 100-150 ยูนิตก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับการลดขนาดน่องให้เล็กลงจะต้องใช้ปริมาณ 200-400 ยูนิต ขึ้นอยุ่ที่ปัญหาและขนาดของกล้ามเนื้อน่องของแต่ละบุคคลด้วย การเห็นผลหลังทำไป 2 อาทิตย์กล้ามเนื้อที่แข็งใหญ่ก็จะเริ่มนิ่มลง และจะเห็นผลเต็มที่่ 1 เดือน อยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน 

โปรโมชั่นลดน่อง 200 ยูนิต 12,000 บาท กระจายตัวยาได้ทั้งสองข้างแบบจุกๆไปเลย 

ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
19 มีค 2564

โปรแกรมโบท็อกซ์รักแร้

     ทุกวันนี้อากาสบ้านเราค่อนข้างร้อนถึงร้อนมาก ทำให้เหงื่อท่วมตัวพอสมควร บางคนขนาดใส่สเปรย์กำจัดกลิ่นเต่าแล้วยังมีกลิ่นเล็ดลอดออกมาอยู่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และเกรงใจคนรอบข้าง วงการแพทย์จึงมีการนำตัวโบท็อกซ์เข้ามาทำการทดลองจนได้การทำงานที่ชัดเจนว่าโบท็อกซ์สามารถลดกลิ่นเต่าได้ดีถึง 80 เปอร์เซ็นเลย 

การทำงานของโบท็อกซ์รักแร้

     สำหรับการฉีดตัวโบท็อกซ์แพทย์จะทำการฉีดบริเวรใต้วงแขน หรือที่รักแร้เลย ประมาณ 20-30 จุด เพื่อกระจายตัวยาให้เต็มที่รอบวงแขน เพื่อยับยั้งการทำงานสารสื่อประสาทอะซีทิลคอลีน (Acetylcholine) ซึ่งสิ่งนี้จะทำหน้าที่ในการควบคุมการผลิตเหงื่อของร่างกายของเรา หลังจากฉีดไปแล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเหงื่อลดน้อยลง รูขุมขนรักแร้กระชับอีกด้วย หลังทำไป 3-7 วันก็เห็นผล

ทำแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน?

     โดยปกติการทำงานของโบท็อกซ์จะอยู่ราวๆที่ 4-6 เดือน หรือส่วนใหญ่จะทำกันปีละ 2 ครั้ง เหมือนการทำโบท็อกซ์บริเวณอื่นๆทั่วไป เช่น ลดกราม ลดริ้วรอย ลดอาการปวดเมื่อย คอ บ่า ไหล่ ลดน่อง ลดกล้ามแขน ลิฟกรอบหน้าเป็นต้น 
 
 

ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล 

     กรณีการฉีดโบริ้วรอย ตีนกา หน้าผาก หว่างคิ้ว รวมถึงการลิฟกรอบหน้า และลำคอ หลังทำไป 3-5 วันก็จะเริ่มเห็นผล และจะเห็นผลเต็มที่เลย 14 วันหลังฉีดไป และในกรณีฉีดโบลดกราม ลดกล้ามแขน ลดน่อง ลดอาการปวดเมื่อย คอ บ่า ไหล่ จะเริ่มเห็นผลหลังทำ 14 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ 1 เดือน เนื่องจากบริเวรเหล่านั้นเป็นมัดกล้ามเนื้อที่แข็งและใหญ่กว่าริ้วรอย 

ยี่ห้อของโบมีอะไรบ้าง? ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม

     ปัจจุบันนี้มีโบหลายยี่ห้อที่เป็นทางเลือกให้ได้เลือกใช้กันแต่ละยี่ห้อก็จะมีขนาดโมเลกุล ความบริสุทธิ์ และปริมาณสาระสำคัญที่แตกต่างกันออกไปทำให้คุณสมบัติของโบแต่ละยี่ห้อและราคาของโบจึงมียี่ห้อโบออกมาให้เลือกมากมายทั้งแพทย์และคนไข้เอง

เรามาดูกันว่าโบท็อกซ์ที่ทางคลินิกได้รับความนิยมมากๆมียี่ห้ออะไรกันบ้าง

อัลเลอร์แกน (Allergan)

ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นดั้งเดิมต้นตำหรับของโบ ที่ผลิตมายาวนาน ถือว่าเป็นยี่ห้อแรกๆที่ค้นพบโบท็อกซ์เลยก็ว่าได้เพราะว่านางมีงานวิจัยรองรับเยอะมาก และผ่านการพัฒนาเพื่อให้มีโอกาสดื้อยาน้อยสุดเลยแหละ แบรนด์นี้ตต้องยกนิ้วให้นางเลยคือ ยืน 1 ในบันดาลโบทั้งหมดเลยจ้า เริ่ดซ์
ข้อดีของโบอเมริกาคือ กระจายตัวแคบ ทำให้ควบคุมการฉีดได้ตรงจุดและแม่นยำแต่ในทางกลับกัน หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ก็จะเห็นข้อผิดพลาดได้บ้าง เช่น คิ้วกระดกปากเบี้ยว ยิ้มแข็ง หรือแม้กระทั้งแก้มตอบเป็นต้น
ราคา 50 ยูนิต 9,900 บาท 
ราคา 100 ยูนิต 16,900 บาท 

ซีโอมิน (Xeomine)

ผลิตในประเทศเยอรมนีมีจุดเด่นของนางคือ มีการนำสารโปรตีนขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นๆที่ไม่จำเป็นออกจึงทำให้เหลือเฉพาะสารท็อกซิน ประเภท A (บริสุทธิ์) และเป็นโมเลกุลเล็กมากเมื่อฉีดแล้วจะไม่กระจุกตัวแคบ และมักได้ผลดีแม้ในกรณีที่ดื้อยา 
ราคา 50 ยูนิต 9,900 บาท 
ราคา 100 ยูนิต 16,900 บาท 

นาโบตะ (Nabota)

ผลิตในประเทศเกาหลี จัดเป็นโบยี่ห้อพรีเมียมได้รับความนิยมมากกกก มีสารท็อกซิน ประเภท A (บริสุทธิ์สูง) ออกฤทธิ์เร็วเน้นใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยที่หน้าผาก หางตา ปรับรูปหน้า ลิฟหน้าเพื่อให้กรอบรูปของใบหน้าชัดเว่อฟ์ และทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามดูเล็กลงเร็ว แบรนด์นี้ขอกระชิปว่านางได้มาตรฐานจาก USFDA นะจ๊ะ คือมาตรฐานจากอเมริกาเลย
ราคา 50 ยูนิต 5,900 บาท 
ราคา 100 ยูนิต 8,900 บาท

เอสท็อกซ์ (Aestox)

ผลิตในประเทศเกาหลีคุณสมบัติค่อนข้างใกล้เคียงกับยี่ห้ออัลเลอร์แกนคือ มีการกระจายตัวค่อนข้างแม่นยำใกล้เคียงกันแต่ราคาจะถูกกว่าประมาณครึ่งหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมากๆในหมู่ความงาม ราคากลางๆ อย่างเราๆคือแตะต้องได้
ราคา 50 ยูนิต 4,900 บาท 
ราคา 100 ยูนิต 7,900 บาท

นิวโรน๊อกซ์ (Neuronox)

เป็นโบที่ได้รับความนิยมมากๆเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ด้วยราคาที่ไม่แพง ผลลัพธ์ดีมาก เป็นที่รู้จักกันอย่างมากในวงการความงาม ถือว่าเป็นตัวเต็งอีกตัวหนึ่งของโบเกาหลีเลย
ราคา 50 ยูนิต 3,900 บาท 
ราคา 100 ยูนิต 6,000 บาท

ฮูเจล (Hugel)

เป็นโบอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมไม่ต่างกันยี่ห้ออื่นๆของเกาหลีเลย ราคาเป็นกันเอง น่ารัก จับต้องได้ง่ายมาก และที่สำคัญผลลัพธ์ที่ออกมาก็เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับผู้ใช้อีกด้วย
ราคา 50 ยูนิต 3,900 บาท 
ราคา 100 ยูนิต 5,999 บาท

ข้อดีของโบเกาหลี

ราคาไม่แพง จับต้องได้ เป็นโบที่มีคุณภาพอีกกลุ่มนึงที่ได้รับความนิยมอย่างมากราคาจับต้องได้ ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจของหลายๆท่านที่เคยทำเลย และเป็นที่ยอมรับทั้วยุโรปและเอเซีย

ความเห็นจากลูกค้าจริง



 

Thelight-clinic Channel