เมโสฝ้า กระ จุดด่างดำ
ใช้เป็นตัวอย่าง ผลจากการรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
3 กพ 2566
ฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร?
การเกิดขึ้นของฝ้า กระ ปัจจัยหลักๆเลยคือแสงยูวี ซึ่งแสงยูวีที่ทำลายผิวหนังคนเราได้คือ แสงยูวีเอ และยูวีบี แสงที่ทำให้เกิดฝ้าได้รวดเร็วคือแสงยูวีบีเพราะมีคลื่นที่ยาวกว่า การทำลายผิวหนังก็จะมีระยะเวลาที่ยาวกว่า และยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า กระ ได้ เช่น การทานอาหารเสริมบางชนิด ยาคุมกำเนิด การใช้เครื่องสำอาง พันธุกรรม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ
ฝ้า กระ
คือความผิดปกติของผิวหนัง เมื่อผิวหนังคนเราเกิดการทำร้ายด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น การไม่ทาครีมกันแดดป้องกัน การทานอาหารเสริมบางชนิด การทานยาคุมกำเนิด รวมถึงพันธุกรรมด้วย พอผิวหนังโดยทำร้ายมากๆก็จะถูกสร้างเม็ดมีเมลานินขึ้นมาทำให้ผิวหน้าชั้นนอกแสดงผลคือฝ้า และกระ ส่วนมากการเกิดฝ้า กระ จะเกิดจากแสงยูวี
ลักษณะของฝ้า
คือจะเป็นฝืนเล็กๆ หรือเป็นแผ่นเล็กจะเห็นได้ชัดในบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก คาง ในร่มผ้าก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นบริเวรหลัง แขน หน้าอก
ฝ้าแบ่งออกมา 2 ประเภท
-
ฝ้าตื้น สำหรับฝ้าตื้อจะเห็นผิวหนังของเรามีแผ่นสีน้ำบางๆ ต้องจ้องมองดีๆถึงจะเห็นว่าผิวหนังเรามีความผิดปกติของผิวหนังชั้นบน
-
ฝ้าลึก สำหรับฝ้าลึกจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าผิวหนังชองเรามีความผิดปกติ มองเห็นเลยว่ามีแผ่นเล็กๆ หรือฟื้นเล็กๆสีน้ำตาลเข้มอยู่บนใบหน้าของเรา อยู่ในชั้นบริเวรผิวหนังชั้นบนเช่นกัน
กระแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
-
กระตื้น สำหรับกระตื้อจะเห็นผิวหนังของเรามีจุดเม็ดสีน้ำตาลน้ำบางๆ เล็กๆ ต้องจ้องมองดีๆถึงจะเห็นว่าผิวหนังเรามีความผิดปกติของผิวหนังชั้นบน
-
กระลึก สำหรับกระลึกจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าผิวหนังชองเรามีความผิดปกติ มองเห็นเลยว่ามีจุดเล็กๆ จะเล็กว่าฝ้าสีน้ำตาลเข้มอยู่บนใบหน้าของเรา อยู่ในชั้นบริเวรผิวหนังชั้นบนเช่นกัน
ฝ้า กระ เป็นอันตรายไหม?
คำตอบคือ ไม่เป็นอันตรายใดๆเลย แต่อาจจะส่องกระจกแล้วผิวเปลี่ยนไป ไม่กระจ่างใส หรือเนียนเหมือนของคนปกติเลย ทำให้เกิดความรำคาญใจ และยิ่งคนไทยเองไม่ค่อยชอบการเป็นฝ้า เพราะทำให้ใบหน้าดูมีอายุ หลายๆคนคิดว่าการเกิดฝ้าคือแก่แล้วจะเป็นฝ้า แต่จริงๆแล้วการเกิดฝ้าสามารถเกิดได้ทั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไปเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การป้องกันและการดูแลผิวหนังของแต่ละคนด้วย ยิ่งไปกว่านั้นการเกิดฝ้า กระ จะเกิดมากที่สุดในเพศหญิง
การรักษา
ปัจจุบันการรักษาฝ้า กระ ที่ได้รับความนิยมกันมากๆคือการทำเลเซอร์ และการฉีดตัวยาลดเม็ดสี ทั้งสองโปรแกรมจะเน้นเรื่องการของยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิล โดยการรักษาด้วยเลเซอร์จะใช้พลังงานความร้อนเข้าไปยับยั้งการสร้างเม็ดสี เห็นผลเร็ว หลังทำไป 2-3 อาทิตย์ก็เริ่มเห็นผล และต้องทำต่อเนื่อง ตามคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง ส่วนการรักษาด้วยการฉีดลดเม็ดสี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากๆ การรักษาด้วยวิธีนี้ถือว่าเป็นทางลัดในการรักษาเลย เพราะแพทย์จะนำตัวยาฉีดลงไปยังชั้นใต้ผิวหนังที่ผิดปกติเลย เพื่อให้ตัวยาเข้าไปลดการทำงานของเม็ดสีลงอย่างรวดเร็ว การออกฤทธิ์ก็เร็ว หลังทำไป 5-7 วันก็เริ่มเห็นผลแล้ว ตัวยาจะทำงานเต็มที่ในการลดเม็ดสี 2 อาทิตย์ ดังนั้นอย่าให้เกิน 2 อาทิตย์แล้วมาฉีดซ้ำ เพื่อให้ตัวยาเข้าไปเล็ดเม็ดสีอย่างต่อเนื่อง
การรักษาฝ้า กระ หายถาวรไหม?
คำตอบคือ ไม่ถาวร แต่จะทำให้เม็ดสีเมลานิลจากลงจนแทบมองไม่ค่อยออกมานั้นคือฝ้า กระ รักษาลดฝ้า กระ ควรทำอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลง หรือพึงพอใจแล้วว่าเม็ดสีจางลง พอเม็ดสีจางลงแล้วสามารถหยุดฉีดได้เลย และไปเน้นเรื่องการดูแลผิวให้ดี เช่น การทาครีมบำรุง และครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดแรงๆโดยไม่มีอะไรป้องกันเลย เช่น ไม่ทาครีมกันแดดเลย ดังนั้นครีมกันแดดสำคัญมาก ควรทาครีมกันแดดค่า SPF 50 ขึ้นไป อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่เยอะมาก กันแดดก็มีแบบสเปรย์แล้วสามารถพ่นทับเมคอัพได้เลย หาซื้อได้ตามร้านชั้นนำทั่วไป หรือออนไลน์