คำว่า "การดื้อโบ" กันมาแล้ว ซึ่งหมายถึง การฉีดโบแล้วไม่เห็นผลลัพธ์ใด ทุกอย่างที่ทำไปหลังฉีดและก่อนฉีดไม่แตกต่างกัน หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเลย โดยอาการดื้อโบ มีสาเหตุมาจากโปรตีนในสารโบนั้นมีหลายชนิด ซึ่งเมื่อฉีดเข้าร่างกายคนเราไปแล้ว ร่างกายของคนไข้บางรายจะสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาเพื่อต่อต้านสารโปรตีนดังกล่าว ทำให้การออกฤทธิ์ของสารโบไม่เห็นผลเท่าที่ต้องการ
ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการดื้อโบขึ้น ได้แก่
-
การใช้โบในปริมาณสูงเกินไป
-
การฉีดโบที่ถี่เกินไป
ดังนั้นคนไข้จึงควรฉีดโบในปริมาณที่น้อยที่สุด และไม่ควรฉีดเกินปริมาณสูงสุดที่กำหนดให้ฉีดได้ นอกจากนี้ การฉีดแต่ละครั้งยังควรห่างกันมากกว่า 12 สัปดาห์ หรือประมาณ 3 เดือนขึ้นไปด้วย
ส่วนวิธีแก้ไขเมื่อผู้เข้ารับบริการเกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ขึ้น การใช้วิธีฉีดสารโปรตีนเพิ่มขึ้นอาจเป็นวิธีที่ช่วยได้ แต่ทางแก้ที่ถูกต้อง คือ ให้เว้นระยะเวลาการฉีดออกไปก่อน เพื่อให้ร่างกายได้สลายสารสกัดโปรตีนออกให้หมดซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1ปี แล้วค่อยกลับมาฉีดใหม่นะจ๊ะ
เรามาดูกันว่าโบท็อกซ์ที่ทางคลินิกได้รับความนิยมมากๆมียี่ห้ออะไรกันบ้าง
อัลเลอร์แกน (Allergan) ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นดั้งเดิมต้นตำหรับของโบ ที่ผลิตมายาวนาน ถือว่าเป็นยี่ห้อแรกๆที่ค้นพบโบท็อกซ์เลยก็ว่าได้เพราะว่านางมีงานวิจัยรองรับเยอะมาก และผ่านการพัฒนาเพื่อให้มีโอกาสดื้อยาน้อยสุดเลยแหละ แบรนด์นี้ตต้องยกนิ้วให้นางเลยคือ ยืน 1 ในบันดาลโบทั้งหมดเลยจ้า เริ่ดซ์
ข้อดีของโบอเมริกาคือ กระจายตัวแคบ ทำให้ควบคุมการฉีดได้ตรงจุดและแม่นยำแต่ในทางกลับกัน หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ก็จะเห็นข้อผิดพลาดได้บ้าง เช่น คิ้วกระดกปากเบี้ยว ยิ้มแข็ง หรือแม้กระทั้งแก้มตอบเป็นต้น
ซีโอมิน (Xeomine) ผลิตในประเทศเยอรมนีมีจุดเด่นของนางคือ มีการนำสารโปรตีนขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นๆที่ไม่จำเป็นออกจึงทำให้เหลือเฉพาะสารท็อกซิน ประเภท A (บริสุทธิ์) และเป็นโมเลกุลเล็กมากเมื่อฉีดแล้วจะไม่กระจุกตัวแคบ และมักได้ผลดีแม้ในกรณีที่ดื้อยา
นาโบตะ (Nabota) ผลิตในประเทศเกาหลี จัดเป็นโบยี่ห้อพรีเมียมได้รับความนิยมมากกกก มีสารท็อกซิน ประเภท A (บริสุทธิ์สูง) ออกฤทธิ์เร็วเน้นใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยที่หน้าผาก หางตา ปรับรูปหน้า ลิฟหน้าเพื่อให้กรอบรูปของใบหน้าชัดเว่อฟ์ และทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามดูเล็กลงเร็ว แบรนด์นี้ขอกระชิปว่านางได้มาตรฐานจาก USFDA นะจ๊ะ คือมาตรฐานจากอเมริกาเลย
เอสท็อกซ์ (Aestox) ผลิตในประเทศเกาหลีคุณสมบัติค่อนข้างใกล้เคียงกับยี่ห้ออัลเลอร์แกนคือ มีการกระจายตัวค่อนข้างแม่นยำใกล้เคียงกันแต่ราคาจะถูกกว่าประมาณครึ่งหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมากๆในหมู่ความงาม ราคากลางๆ อย่างเราๆคือแตะต้องได้
นิวโรน๊อกซ์ (Neuronox) เป็นโบที่ได้รับความนิยมมากๆเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ด้วยราคาที่ไม่แพง ผลลัพธ์ดีมาก เป็นที่รู้จักกันอย่างมากในวงการความงาม ถือว่าเป็นตัวเต็งอีกตัวหนึ่งของโบเกาหลีเลย
ฮูเจล (Hugel) เป็นโบอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมไม่ต่างกันยี่ห้ออื่นๆของเกาหลีเลย ราคาเป็นกันเอง น่ารัก จับต้องได้ง่ายมาก และที่สำคัญผลลัพธ์ที่ออกมาก็เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับผู้ใช้อีกด้วย
ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล
กรณีการฉีดโบริ้วรอย ตีนกา หน้าผาก หว่างคิ้ว รวมถึงการลิฟกรอบหน้า และลำคอ หลังทำไป 3-5 วันก็จะเริ่มเห็นผล และจะเห็นผลเต็มที่เลย 14 วันหลังฉีดไป
กรณีฉีดโบลดกราม จะเริ่มเห็นผลหลังทำ 14 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ 1 เดือน เนื่องจากกรามเป็นมันกล้ามเนื้อที่แข็งและใหญ่กว่าริ้วรอย จึงจำเป็นต้องให้ตัวยาใช้เวลาในการทำงานกับกล้ามเนื้อส่วนนั้น ทำแล้วอยู่ได้ 4-6 เดือน หรือจะนานกว่านั้น น้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่ที่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆด้วย
สรุปแล้ว
การฉีดโบเป็นวิธีที่ง่ายในการรักษา และรวดเร็วในการเห็นผลลัพธ์ รวมไปถึงความปลอดภัยด้วยว่าไม่มีสารตกค้าง ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพไม่มีผลข้างเคียงใดๆเลย หลังทำไปแล้วก็สามารถใช้ชีวิตและทำกิจกรรมได้ตามปกติเลย แต่มีข้อความคือ งดนวดหน้า กดจุดบริเวณที่ฉีดไป 2 อาทิตย์ งดแอลกอร์ฮอล 48 ชม หรืออย่างน้อย 3 วัน งดนอนราบ 4 ชม หลังทำ ถ้าคนไข้ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะทำให้อายุของโบท็อกซ์อยู่ได้นานด้วยนะค่ะ