สำหรับโปรแกรมการปรับรูปหน้าจะทำกัน 2 โปรแกรมหลักๆคือ สลายไขมันส่วนหน้าคือแก้ม เหนียง จะต้องใช้ตัวยาเรียกว่ายาสลายไขมันนิยมเรียกกันคุ้นหูว่า "แฟต" และอีกโปรแกรมคือ โบลดกราม หรือลดกล้ามเนื้อกราม จะต้องใช้ตัวยาท็อกซิน หรือที่รู้จักกว่าคือ "โบท็อกซ์"ตัวนี้จะช่วยปรับรูปหน้าส่วนหลังคือกราม ดังนั้นการปรับรูปหน้าพื้นฐานเลยจะนิยมทำสองโปรแกรมหลักๆนี้เลย ถ้าทำพร้อมกันได้รูปหน้าของเราจะเข้ารูปทั้งส่วนหน้า และส่วนหลังพอดีกันเลย
คือโปรแกรมสลายไขที่มันแก้ม หรือเหนียง เป็นการปรับรูปหน้าส่วนด้านหน้า เพื่อทำให้บริเวณที่ต้องการสลายไขมันให้ยุบตัวลงสำหรับการสลายของไขมันจะขับออกทางปัสสาวะ ดังนั้นหลังทำไปแล้วแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ มากกว่า 2 ลิตรต่อวันได้เลย และงดทานของมันของทอด แป้ง เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมเร็ว หลังทำไป 5-7 วันก็เริ่มเห็นผล และจะเห็นผลเต็มที่เลย 2 อาทิตย์ หรือ 1 เดือนขึ้นอยู่ที่การตอบสนองตัวยาของแต่ละบุคคลด้วยนะค่ะ
การสลายไขมันส่วนเกิดที่ต้องการสลายในแต่ละครั้งจะสลายไขมันออกไปประมาณ 10-15% ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การตอบสนองตัวยาของแต่ละคนด้วยรวมถึงปริมาณของตัวยาที่ใช้ และการฉีดสลายซ้ำครั้งที่ 2 เป็นเรื่องปกติของการฉีดสลายไขมัน แต่สำหรับบางคนทำครั้งเดียวและตอบสนองตัวยาได้ดีมาก ก็ไม่จำเป็นต้องฉีดซ้ำในครั้งที่สอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจในรูปหน้าของแต่ละคนด้วย
คือการใช้โบที่บริสุทธิ์ฉีดที่บริเวณกรามจะทำให้กล้าทเนื้อกล้ามฟ่อตัวลง ไม่อันตราย ฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ หลังทำโบลดกรามไปจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของโบหลังฉีด หลีกเลี่ยงความร้อนสัมผัสใบหน้าทุกชนิด งดทานของเหนียว แข็ง เพื่อไม่ให้กรามเกิดขึ้นได้อีก
เป็นโปรแกรมหลักๆของการปรับให้รูปหน้าดูเรียว และเข้ารูป ลดกรามด้วยโบจะเริ่มเห็นผลหลังทำ 2 อาทิตย์หลังฉีดไป และจะเห็นผลเต็มที่ 1 เดือน ส่วนโปรแกรมสลายไขมันจะเห็นผลเต็มที่ 14 วันหลังทำ รูปใช้เป็นตัวอย่างแสดงผลลัพธ์จากการเข้าการรักษาโปรแกรมโบท็อกซ์ลดก้อนกราม หลังจากทำไปครบ 1 เดือน
ปัจจุบันการปรับรูปหน้าด้วยโบได้รับความนิยมมากๆในปัจจุบัน เนื่องจากไม่ต้องมีการพักฟื้นใดๆ เห็นผลเร็วด้วย ทำให้ใครหลายๆคนเลือกวิธีนี้เพราะด้วยราคาที่ไม่แรง ไม่แพง ไม่ต้องพักฟื้น หรือผ่าตัดเลย ยิ่งทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ การลดกรามคุณหมอจะฉีดท็อกซินเข้าไปยังบริเวณกล้ามเนื้อกราม เพื่อไปยับยั้งการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อน และนิิ่มลงภายใน 2 อาทิตย์ที่เริ่มเห็นผล และเห็นผลลัพธ์เต็มที่ 1 เดือน ประมาณอยู่ได้ 4-6 เดือน
การที่บางคนมีรูปหน้าที่ใหญ่นั้นมีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเกิดจากกรรมพันธุ์เพราะด้วยโครงสร้างกระดูกที่ใหญ่ และการใช้กล้ามเนื้อกรามด้วย เช่น การเคี้ยวของแข็งๆ และเหนียวๆบ่อย รวมไปถึงการคบเคี้ยวหมากฝรั่ง การเคี้ยวของแข็งและเหนียวบ่อยๆทำให้มัดกล้ามเนื้อบริเวณกรามแข็งแรง จนทำให้เห็นก้อนกรามที่ปูดออกมา ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆคือการออกกำลังกายยกเวท ทำให้แขนของเรามีกล้าม ดังนั้นการเคี้ยวของแข็ง และการคบเคี้ยวบ่อยๆทำให้กล้ามเนื้อกรามแข็งแรงขึ้น
หน้าผาก เป็นบริเวณที่ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดดขึ้นได้ง่ายมาก เพราะเป็นส่วนที่ใช้ในการแสดงสีหน้าเป็นประจำ ไม่ว่าจะด้วยเหตุการณ์ใดๆที่ใช้การแสดงสีหน้า อาทิ โกรธ งอล ดีใจ หัวเราะ พอทำเป็นประจำก็จะทำให้เกิดร่องลึกขึ้นได้ ซึ่งเป็นอาการปกติของคนทั่วไป และอีกสาเหตุนึงคือการโดนแสงแดดทำร้าย (UV) ยิ่งคนที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดป้องกันจะทำให้เกิดริ้วรอยที่เป็นร่องลึกได้สูงกว่าคนที่ทาครีมกันแดดเป็นอีกหนึ่งบริเวณที่เกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ เพราะบริเวณนี้จะเห็นได้ชัดเหมืนกับบริเวณหน้าผาก การแสดงสีหน้า และการแสดงอารมณ์ต่างๆกล้ามเนื้อบริเวณนี้ก็ทำงานไปด้วย เพราะทุกการแสดงสีหน้ากล้ามเนื้อก็จะทำงานไปด้วย และเป็นบริเวณตื้นๆที่เวลายิ้มจะเห็นริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตาชัดมากๆ
หว่างคิ้ว (ขมวดคิ้ว) บริเวณนี้ก็เป็นจุดที่เป็นริ้วรอยได้ง่าย และเป็นร่องลึกได้ง่ายเช่นกัน บางท่านไม่เคยดูแลตัวเองเลย และใช้การแสดงสีหน้าคอนข้างเยอะจนทำให้ริ้วรอยตื้นๆกลายเป็นริ้วรอยร่องลึกถาวร (จะเป็นริ้วรอยที่ร่องลึกกว่าคนทั่วไปที่ดูแลตัวเอง หรือฉีดโบอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณคอ เป็นส่วนที่คนไทยเราไม่ค่อยนิยมสักเท่าไหร่ บริเวณคอเป็นอีกหนี่งบริเวณที่สามารถเกิดปัญหาการเหี่ยวย่นได้ง่ายมากๆอย่างน้อยควรดูแลบริเวณนี้ไปด้วยร่องแก้ม เป็นบริเวณที่เป็นร่องลึกที่ลึกมาก เห็นได้ชัดเจนมากๆ แต่บริเวณนี้ไม่แนะนำให้ใช้โบในการรักษา เนื่องจากเสี่ยงต่อการแสดงสีหน้าไม่ได้ ยิ้มไม่ออก และเสี่ยงต่อปากเบี้ยวได้ (แนะนำใช้โปรแกรมร้อยไหม หรือโปรแกรมฟิลเลอร์ หรือไฮฟู่แทน)
1.ทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ รวมถึงอาหารที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี ซึ่งทั้งหมดสามารถทานผักและผลไม้ได้ รวมถึงอาหารเสริม
2. การนอนหลับ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยได้ เพราะการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอทำให้เซล์ลต่างๆในร่างกายเราพักผ่อนไม่เต็มที่
3.ทานอาหารเสริม เลือกทานอาหารเสริมที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเยอะๆ เพราะทุกวันนี้หลายท่านทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือต่อให้ครบ ก็อาจจะได้สารอาหารไม่ครบ ดังนั้นอาหารเสริมเป็นอีกทางเลือกในการช่วยได้
4.ออกกำลังกาย การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยลดความเครียดได้แล้ว ยังช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายอีกด้วย พอร่างกายผ่อนคลาย การแสดงอารมณ์ต่างๆที่จะออกทางสีหน้าก็จะบรรเทาลง
กรณีการฉีดโบริ้วรอย ตีนกา หน้าผาก หว่างคิ้ว รวมถึงการลิฟกรอบหน้า และลำคอ หลังทำไป 3-5 วันก็จะเริ่มเห็นผล และจะเห็นผลเต็มที่เลย 14 วันหลังฉีดไป
กรณีฉีดโบลดกราม จะเริ่มเห็นผลหลังทำ 14 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ 1 เดือน เนื่องจากกรามเป็นมันกล้ามเนื้อที่แข็งและใหญ่กว่าริ้วรอย จึงจำเป็นต้องให้ตัวยาใช้เวลาในการทำงานกับกล้ามเนื้อส่วนนั้น
ปัจจุบันนี้มีโบหลายยี่ห้อที่เป็นทางเลือกให้ได้เลือกใช้กันแต่ละยี่ห้อก็จะมีขนาดโมเลกุล ความบริสุทธิ์ และปริมาณสาระสำคัญที่แตกต่างกันออกไปทำให้คุณสมบัติของโบแต่ละยี่ห้อและราคาของโบจึงมียี่ห้อโบออกมาให้เลือกมากมายทั้งแพทย์และคนไข้เอง เรามาดูกันว่าโบท็อกซ์ที่ทางคลินิกได้รับความนิยมมากๆมียี่ห้ออะไรกันบ้าง
ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นดั้งเดิมต้นตำหรับของโบ ที่ผลิตมายาวนาน ถือว่าเป็นยี่ห้อแรกๆที่ค้นพบโบท็อกซ์เลยก็ว่าได้เพราะว่านางมีงานวิจัยรองรับเยอะมาก และผ่านการพัฒนาเพื่อให้มีโอกาสดื้อยาน้อยสุดเลยแหละ แบรนด์นี้ตต้องยกนิ้วให้นางเลยคือ ยืน 1 ในบันดาลโบทั้งหมดเลยจ้า เริ่ดซ์
ข้อดีของโบอเมริกาคือ กระจายตัวแคบ ทำให้ควบคุมการฉีดได้ตรงจุดและแม่นยำแต่ในทางกลับกัน หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ก็จะเห็นข้อผิดพลาดได้บ้าง เช่น คิ้วกระดกปากเบี้ยว ยิ้มแข็ง หรือแม้กระทั้งแก้มตอบเป็นต้น
ราคา 50 ยูนิต 9,900 บาท
ราคา 100 ยูนิต 16,900 บาท
ผลิตในประเทศเยอรมนีมีจุดเด่นของนางคือ มีการนำสารโปรตีนขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นๆที่ไม่จำเป็นออกจึงทำให้เหลือเฉพาะสารท็อกซิน ประเภท A (บริสุทธิ์) และเป็นโมเลกุลเล็กมากเมื่อฉีดแล้วจะไม่กระจุกตัวแคบ และมักได้ผลดีแม้ในกรณีที่ดื้อยา
ราคา 50 ยูนิต 9,900 บาท
ราคา 100 ยูนิต 16,900 บาท
ผลิตในประเทศเกาหลี จัดเป็นโบยี่ห้อพรีเมียมได้รับความนิยมมากกกก มีสารท็อกซิน ประเภท A (บริสุทธิ์สูง) ออกฤทธิ์เร็วเน้นใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยที่หน้าผาก หางตา ปรับรูปหน้า ลิฟหน้าเพื่อให้กรอบรูปของใบหน้าชัดเว่อฟ์ และทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามดูเล็กลงเร็ว แบรนด์นี้ขอกระชิปว่านางได้มาตรฐานจาก USFDA นะจ๊ะ คือมาตรฐานจากอเมริกาเลย
ราคา 50 ยูนิต 5,900 บาท
ราคา 100 ยูนิต 8,900 บาท
ผลิตในประเทศเกาหลีคุณสมบัติค่อนข้างใกล้เคียงกับยี่ห้ออัลเลอร์แกนคือ มีการกระจายตัวค่อนข้างแม่นยำใกล้เคียงกันแต่ราคาจะถูกกว่าประมาณครึ่งหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมากๆในหมู่ความงาม ราคากลางๆ อย่างเราๆคือแตะต้องได้
ราคา 50 ยูนิต 4,900 บาท
ราคา 100 ยูนิต 7,900 บาท
เป็นโบที่ได้รับความนิยมมากๆเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ด้วยราคาที่ไม่แพง ผลลัพธ์ดีมาก เป็นที่รู้จักกันอย่างมากในวงการความงาม ถือว่าเป็นตัวเต็งอีกตัวหนึ่งของโบเกาหลีเลย
ราคา 50 ยูนิต 3,900 บาท
ราคา 100 ยูนิต 6,000 บาท
เป็นโบอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมไม่ต่างกันยี่ห้ออื่นๆของเกาหลีเลย ราคาเป็นกันเอง น่ารัก จับต้องได้ง่ายมาก และที่สำคัญผลลัพธ์ที่ออกมาก็เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับผู้ใช้อีกด้วย
ข้อดีของโบเกาหลี ราคาไม่แพง จับต้องได้ เป็นโบที่มีคุณภาพอีกกลุ่มนึงที่ได้รับความนิยมอย่างมากราคาจับต้องได้ ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจของหลายๆท่านที่เคยทำเลย และเป็นที่ยอมรับทั้วยุโรปและเอเซีย
ราคา 50 ยูนิต 3,900 บาท
ราคา 100 ยูนิต 5,999 บาท